นโยบายรัฐบาล
31 ตุลาคม 2549
อ่านบทความของ สำนักข่าวหัวเขียว ลงในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 28 ตุลาคม 2549 วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลที่กำลังจะนำเสนอต่อสภา จับใจความได้ว่า อ่านนโยบายแล้วไม่เข้าใจ คล้ายกับว่า ไม่เป็นรูปธรรม ที่จับต้องได้ ต่อท้ายให้เครดิตพรรคประชาธิปัตย์ว่า นโยบายรัฐบาลที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ก็ดันไปลอกแบบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เสียอีก พลพรรค ปชป. ทั้งหลาย และแฟนพันธุ์แท้ ( รวมทั้งตัวผม) อ่านแล้วยิ้มแกล้มปริไปตามตามกัน
ความจริงนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอ ไม่ใช่ของแปลก ไม่ใช่นโยบายที่หวือหวา ( ที่หวือหวานั้นมีครับ แต่ยังไม่ทันได้นำเสนอ ถูกไล่ลงเวทีไปเสียก่อน ) เพียงแต่พรรคปชป.เห็นว่าเป็นนโยบายที่รํฐบาล ไม่ว่าชุดไหน ถ้าได้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักแล้ว
( Putting the People First ) รัฐบาลนั้นต้องทำ วันนี้ต้องขอบคุณรัฐบาลครับ
นโยบายที่ว่านี้มีอะไรบ้าง ที่เห็นกันอยู่ จัดอันดับได้อย่างนี้ครับ
1. รายได้ที่ได้จากการขายหวยบนดิน ให้นำเข้าสู่ระบบงบประมาณ ( รัฐบาลไทยรักไทย ไม่ทำ เพราะต้องการเอาเงินของพวกเราไปใช้ตามอำเภอใจไงครับ )
2. ยกเลิก 30 บาท ให้รักษาฟรี โดยเพิ่มเงินช่วยรายหัว เพื่อให้ได้ยาดี และรักษาอย่างมีคุณภาพ
3. เรียนฟรีจริง โดยเพิ่มเงินสนับสนุนจากรัฐ ( ทำได้ มีเงินพอ ถ้าใช้เงินภาษี อย่างโปร่งใส ไม่โกง)
4. จัดอันดับความสำคัญของรถไฟฟ้าและสร้างส่วนที่จำเป็นก่อนโดยคำนึงถึงฐานะการเงินของรัฐ
5. ปรับค่าแรงขั้นต่ำ ( เอาเปรียบพี่น้องแรงงานกันมานานแล้ว )
เหลือที่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการคือ เรื่องของค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ดูท่าว่าจะไม่ช่วยประชาชนในเรื่องนี้ ข่าวว่า พอเห็นราคาน้ำมันลดลง เลยทำไม่รู้ไม่ชี้ แอบเก็บเงินเข้ากองทุนให้มากขึ้นไปอีก สรุปแล้วเราคงยังไม่ได้ใช้น้ำมันในราคาที่เป็นจริงอีกนานครับ มองอีกมุมหนึ่งก็ดี ที่ไม่เอานโยบายพรรคปชป.ไปทั้งหมด
ความจริงบทความของไทยรัฐที่ได้เคยวิจารณ์ นโยบายของ พรรคประชาธิปัตย์ ไว้ในลักษณะที่ไม่เห็นด้วยก็มี ท่านผู้อ่านที่ได้เคยเข้ามาในเว็บไซด์นี้ อาจได้อ่านบทความที่ผมได้พยายามชี้แจงเกี่ยวกับความเห็นของ ทีมเศรษฐกิจของไทยรัฐ มาบ้างแล้ว
พูดถึงนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นชุดไหนก็ตาม โดยเฉพาะถ้าเป็นรัฐบาลที่มีส่วนผสมของนักวิชาการหรือข้าราชการมากหน่อย ก็จะออกมาคล้ายคล้ายกันหมดละครับ ภาษาดอกไม้ สละสลวย เป็นภาพกว้าง แต่อ่านแล้วน่าเบื่อ แถมเข้าใจยากอีกต่างหาก (อ่านคำแถลงนโยบาย)
บ้านเมืองของเราเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปในทางที่ดีครับ ประชาชนสนใจการบ้านการเมืองมากขึ้น ท่านเหล่านี้เป็นเพียงประชาชนธรรมดา เป็นเพียงชาวบ้านร้านค้า ที่อยากจะรู้ว่า มีรัฐบาลแล้ว เขาได้อะไรบ้าง เขาจึงต้องการเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมครับ สมัยก่อนที่ไม่มีใครวิจารณ์กัน หรือมีเสียงสะท้อนน้อย ก็เพราะเขาไม่สนใจ ไม่ได้รับรู้ หรือไม่อยากจะรับรู้เสียละมากกว่า ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลยุคนี้ ต้องปรับตัวใหม่ ต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศให้ได้
ส่วนตัวแล้ว ผมให้ความสำคัญกับนโยบายรัฐบาลชุดนี้น้อยมาก เพราะผมถือว่าเป็นรัฐบาลชั่วคราว ขัดตาทัพ มีเวลาเพียง 1 ปี ( ถ้าคิดจะอยู่นานกว่านี้ เชื่อก๋วยเตี๋ยวกินได้ ว่าถูกไล่ออกเสียก่อน ) ผมสนใจงานของ ปปช. คตส. สตง. รวมทั้ง กกต. มากกว่า ผมว่ารัฐบาลควรสนับสนุนหน่วยงานเหล่านี้ เต็มสูบ เต็มร้อย สำคัญ เพราะเหตุนี้ครับ
กกต. จะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม คงไม่ได้ครบถ้วน เพียงแต่ให้มีการโกง การซื้อเสียงน้อยที่สุดได้ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จแล้ว การเลือกตั้งที่สะอาด ยุติธรรม สำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตย
ปปช. คตส. และ สตง. ทั้งสามหน่วยงาน น่าเป็นห่วงมากที่สุด เพราะถ้าท่านตรวจสอบแล้ว ทำงานไปได้พักหนึ่ง ปรากฎว่า ไม่มีอะไรในก่อไผ่ เอาผิดใครไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรกัน หัวหน้าคณะปฏิรูป ของผม ที่ได้เสี่ยงฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งด้วยเหตุผลเหล่านี้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนครับ
อดนึกถึงประเทศมหาอำนาจเช่นสหรัฐ หรือ อังกฤษ ที่มีผู้นำอย่าง จอร์ช บุช หรือ โทนี่ แบลร์ไม่ได้ ออกลุยทำสงคราม เข้ายึดประเทศอิรัก ทหารและพลเรือนเสียชีวิตนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุผลว่า ซัดดัม ฮุสเซ่น มีอาวุธเคมีร้ายแรง ต้องรีบทำลาย แล้วไงครับ ถึงวันนี้ ผู้นำทั้งสองกลายเป็นตัวตลกบนเวทีโลก เรตติ้ง หรือความนิยมจากประชาชนไม่ต้องพูดถึง ดูไม่จืดครับ เพราะท้ายที่สุดหาระเบิด อาวุธเคมีสักชิ้นก็ไม่เจอ
กรณี ของเราต่างกัน ระบอบทักษิณมีจริงและยังมีอยู่ โกงกันจริงและมากที่สุด ด้วยวิธีแยบยล ใช้การบริหารภาษี ใช้ระบบตัวแทน ใช้บริษัทผีจากหมู่เกาะฟอกเงิน โกงทุกอย่างที่ขวางหน้า ที่น่ากลัวมาก ก็คือ ระบอบนี้ เงินหนา กระเป๋าเจมส์บอนด์ไม่ต้องคิด เล็กเกินไป กระเป๋านักบิน ใหญ่หน่อยแต่ก็คงใส่เงินไม่พอเช่นกัน ต้องใส่ลังเบียร์ ลังเหล้า เผลอเผลอ ถุงทะเลเสียด้วยซ้ำ เงินสกปรกนี้ไปถึงไหน ก็ทะลุทะลวง ได้ผลเสมอ
ข้อดีของบ้านเมืองเรา คือ เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนแปลงถึงเกิดขึ้นได้ ถ้าเงินซื้อได้ทั้งหมด ไม่มีวันที่ 19 กันยายน หรอกครับ
คณะปฏิรูปเป็นต้นเหตุ เป็นที่มาทำให้เรามีรัฐบาลชุดปัจจุบัน หนีไม่พ้นที่คณะปฏิรูปจะต้องรับผิดชอบโดยตรงกับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระ ทำของท่าน ผมคงไม่ต่างจากท่านผู้อ่าน ที่อยากจะเห็นผลงาน ให้ออกมาโดยเร็ว เสี่ยงเกินไปไหมครับ ที่ท่านจะปล่อยให้การหาคนโกงให้อยู่ใน มือ คตส. หรือ ปปช. หรือ สตง. เท่านั้น อนาคต ของบ้าน ของเมือง รวมทั้งของตัวท่านเอง ฝากไว้ให้กับ 2 – 3 องค์กร นี้ เพียงเท่านี้หรือ ฝากเป็นการบ้านไว้ ด้วยความปรารถนาดีครับ.