อยู่ดีมีสุข
วันที่ 21 มีนาคม 2550
ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่ารัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ มีโครงการประชานิยมสำหรับพี่น้องในชนบทและชุมชนเหมือนกันครับ ใช้ชื่อโครงการว่า “อยู่ดีมีสุข ” โครงการนี้ใช้เงินงบประมาณที่รัฐบาลทักษิณได้เตรียมไว้ใช้ในโครงการพัฒนา ศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (ชื่อการตลาดสวยหรูว่า โครงการ เอส เอ็ม แอล ) แต่รัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์เปลี่ยนวิธีการใช้เงินเสียใหม่ โดยใช้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขเป็นหลักในการ ดำเนินกิจกรรมหรือโครงการ
ฟังดูแล้วมีความรู้สึกที่ดี ต้องชมกันหน่อย โครงการไม่ต่างไปจากนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้เคยเสนอไว้ในช่วงการเต รียมการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ผมจำได้แม่น มีการถามกันมามากในช่วงนั้นครับ ถามกันว่า โครงการ เอส เอ็ม แอล ของรัฐบาลทักษิณ พรรคประชาธิปัตย์จะยกเลิกหรือทำต่อ วันนั้นเราตอบว่า ทำ แต่ทำต่างกัน โดยเราจะจัดงบประมาณที่เป็นเม็ดเงินลงตรงไปในหมู่บ้านโดยใช้แนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงเป็นยุทธศาสตร์กำกับเท่านั้น จะนำเงินไปใช้ตามอำเภอใจไม่ได้
โครงการของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทันได้ตั้งชื่อ ของรัฐบาลท่านสุรยุทธ์ใช้ชื่อว่า “อยู่ดีมีสุข”
ความจริง ถ้ารัฐบาลท่านนายกสุรยุทธ์แข็งขันและทำงานโดยไม่มีวันหยุด ลุยโครงการนี้อย่างจริงจัง รัฐบาลเองอาจจะได้มีโอกาส อยู่ดีมีสุข กับเขาได้เหมือนกัน
น่าเสียดายที่รัฐบาลให้ความสำคัญโครงการนี้น้อยเกินไป นอกจากจะไม่ประชาสัมพันธ์โครงการแล้ว งบประมาณที่จัดไว้ก็น้อยเสียเหลือเกิน ให้แค่ 5,000 ล้านบาทสำหรับระดับหมู่บ้าน/ชุมชน อีก 5,000 ล้านบาทสำหรับระดับจังหวัด รวมเป็นเงิน 10,000 ล้านบาท ไม่ได้จัดเงินงบประมาณให้ทุกหมู่บ้าน สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานที่ไร้วิญญาณของความเป็นนักการเมือง
รัฐบาลคงคิดจะประหยัด หรือไม่ก็ให้เหตุผลว่าชาวบ้านบางส่วน บางหมู่บ้านยังไม่พร้อม ถามหน่อยครับว่า ใครเป็นคนตัดสินว่าหมู่บ้านไหนพร้อม หมู่บ้านไหนไม่พร้อม เคยถามเจ้าตัวเขาหรือเปล่า ก็เปล่า ใช่ไหมครับ
ได้ยินเมื่อเช้านี้ว่า ( 21 มีนาคม ) ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกำลังกลุ้มใจที่เงินหายไปจากระบบรากหญ้าถึง 50,000 ล้านบาท และจะประชุมกับสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อแก้ปัญหา โดยจะให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเพิ่ม
ทำไมได้หรอกครับ ที่ปล่อยกู้ไปแล้วยังไม่ได้คืน จะให้ปล่อยกู้เพิ่มอีกได้อย่างไร ถึงแม้ว่าอาจจะเร่งรัด ปล่อยเพิ่มได้บ้าง ก็จะไม่มากและไม่ทันการ
ทีมเศรษฐกิจควรนำโครงการอยู่ดีมีสุขเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า อย่ามัวชักช้า รีบขออนุมัติจัดงบประมานเพิ่มสำหรับโครงการอยู่ดีมีสุข จัดให้ทุกหมู่บ้าน ขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุด 300,000 บาท รัฐจะให้เงินแบบให้เปล่า หรือให้ตั้งเป็นกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง ขึ้นอยู่กับลักษณะและรูปแบบของโครงการ
ทำตามแบบที่ผมนำเสนอจะใช้เงินทั้งหมดประมาณ 15,000 ล้านบาทสำหรับหมู่บ้านและชุมชน
7 หมื่นกว่าแห่งทั่วประเทศ เพิ่มจาก 5,000 ล้านที่เตรียมไว้เดิมอีก 10,000 ล้านบาท รวมของจังหวัดอีก 5,000 ล้านบาท จะใช้เงินงบประมาณทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ถ้าฐานะการเงินไม่อำนวย ชะลอ 5,000 ล้านบาทของจังหวัดออกไปก่อนก็ไม่น่าจะเสียหาย
เม็ดเงินไม่มากเมื่อเทียบกับที่หายไปจากระบบ 50,000 ล้านบาท แต่รัฐสามารถเร่งทำได้ทันที ต้องเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยเร็วครับ
แนวทางและหลักเกณฑ์การทำกิจกรรมภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงที่รัฐบาลได้วางไว้ เหมาะสมดีอยู่แล้ว ข้อสำคัญท่านต้องจัดงบประมาณให้หมู่บ้านที่อาจจะยังไม่พร้อมด้วย ไม่ต้องจัดเม็ดเงินมาก แต่ต้องจัดให้ ถือว่าเป็นการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากของจริง ไม่ใช่จากการจัดสัมมนา ใช้เงินภาษีแบบนี้ไม่สูญเปล่าหรอกครับ
ถ้าทำได้ อย่าลืมป่าวประกาศให้ชาวบ้านเขาได้รับรู้เสียด้วย พี อาร์ ให้ทันสมัยหน่อย ยิงสปอต
ออกทีวี ช่วงข่าว ช่วงละคร พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้รับรู้ว่ารัฐบาลท่านนายกสุรยุทธ์เป็นห่วงเขาจริง.
Tags: งบประมาณ, นโยบาย, โครงการอยู่ดีมีสุข