E-Auction E-Corruption
29 กรกฎาคม 2551
อี – อ๊อคชั่น เริ่มสมัยประเทศไทยมีผู้นำชื่อทักษิณ ชินวัตร เป็นวิธีการประมูลงานภาครัฐโดยใช้ระบบอิเล็คโทรนิคส์ ถือเป็นวิธีการกำจัดคอรัปชั่นในวงราชการที่คนหน้าเหลี่ยมภาคภูมิใจ ช่วงนั้นคุยนักคุยหนาว่า นี่ละหัวใจของการแก้ปัญหาการฮั้วประมูลงานหลวง ถือเป็นสุดยอดของนโยบายที่มีทั้งความทันสมัยและโปร่งใส
หลังจากประกาศนโยบายไม่นาน ภาคราชการก็สวมวิญญาณข้าราชการที่ดี ตอบสนองแนวนโยบายกันทั่วหน้า ไม่นานต่อมา เราก็เริ่มได้ยินเสียงนินทาว่า เดี่ยวนี้เขาประมูลงานกันแถวอินเตอเน็ทคาเฟ่ ผู้รับเหมาหิ้วโน๊ตบุ๊คกันคนละตัว นั่งประมูลงานกันไป เม้าท์กันไป สะดวกอารมณ์
ผมได้เล่าให้ฟังเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าพรรคประชาธิปัตย์มอบหมายให้เป็น กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลคุณสมัคร นั่งประชุมกันจันทร์ถึงศุกร์ กว่าจะเลิกก็ ๔ ทุ่ม ทุกคืน ยกเว้นวันศุกร์ที่ปล่อยให้กลับบ้านเร็วหน่อย ต้องประชุมกันติดต่อเป็นเวลากว่า ๑๐ สัปดาห์ครับ
ทำให้ผมได้ไปเห็นของ (ไม่ )ดี ได้ไปเห็น e- corruption ครับ
ในระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่ฝ่ายบริหารเก็บจากประชาชนนั้น เวลาจะนำมาจับจ่ายใช้สอยต้องจัดทำเป็นแผนประจำปีในรูปแบบที่เป็นกฎหมายเรียก กันว่า พระราชบัญญัติงบประมาณ ต้องทำกันอย่างนี้ทุกปี และผู้พิจารณาอนุมัติคือตัวแทนประชาชน ( สส. )
ขบวนการอนุมัติเหมือนกฎหมายทั่วไป ต้องทำกัน ๓ วาระ วาระแรกเป็นการขออนุมัติในหลักการ วาระที่สองคือการพิจารณารายละเอียด และท้ายที่สุดกลับเข้ามาในรัฐสภา ขอความเห็นชอบจากทั้ง สส. และ สว. ขบวนการยาวเหยียด แต่รัฐธรรมนูญกำหนดเวลาการพิจารณาว่าต้องให้เสร็จก่อนส่งขึ้นทูลเกล้า ประมาณ ๑๙๐ วันจากวันแรกที่ได้ผ่านการอนุมัติในหลักการ เสียเวลาเล่าให้ฟังนิดหนึ่งเพราะมีหลายท่านที่อาจจะไม่คุ้นเคยในเรื่องนี้ ผมเข้าไปช่วยตรวจสอบในรายละเอียด ( วาระ ๒ ) ทำได้แค่นั้นเพราะครั้งนี้อยู่นอกสภา ไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้ง
การพิจารณาลึกลงในรายละเอียดเรามักจะได้พบได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์อยู่บ่อยครั้ง วันนี้ผมนำผลการประมูลแบบ e-auction มาให้ชม ๓ ตัวอย่าง เป็นงานก่อสร้างทางของกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม
ราคากลาง 4 .9 ล้าน ประมูล 4 ราย ต่ำกว่าราคากลาง 100 , 300 , 500 , และ1,000 บาท !!!!!
ราคากลาง 2.48 ล้าน ประมูล 4 ราย สูงกว่าราคากลาง 1,900 1,800 และ 1,700 บาท !!!!!
ราคากลาง 4.9 ล้าน ประมูล 4 ราย ต่ำกว่าราคากลาง 100 , 300 ,500 บาท !!!!!
ผมเรียกว่าเป็น e- corruption เพราะตัวเลขการประมูลฟ้องว่า ไม่ใช่เป็นการประมูลแบบแข่งขัน แต่เป็นการประมูลแบบสมยอม ถ้าอยากรู้ว่าเงินภาษีของเราถูกโกงประมาณเท่าไหร่ ข้อมูลมีอย่างนี้ครับ
ปีนี้กรมทางหลวงชนบทได้เงินใช้จ่ายไม่ต่างจากปีที่แล้ว ประมาณ ๑.๗ หมื่นล้านบาท แบ่งได้เป็นค่าเงินเดือนและค่าดำเนินการประมาณ ๗ พันล้าน ส่วนที่เหลือ ๑ หมื่นล้านเป็นค่าซ่อมบำรุงและงานก่อสร้าง ถนน สะพาน ทั้งที่ยังทำไม่เสร็จและที่เริ่มโครงการใหม่
โครงการของกรมทางหลวงชนบทเป็นงานก่อสร้างทางในชนบท ผู้แทนราษฎรให้ความสนใจเป็นพิเศษ กรมฯจึงต้องจัดโครงการให้ทั่วถึงครบทุกเขตเลือกตั้ง แต่เมื่อเงินงบประมาณมีน้อย จึงต้องแตกโครงการออกเป็นโครงการขนาดเล็กๆ และใช้วิธี E – Auction ในการประกวดราคาเลือกผู้รับเหมา ผลการประมูลทั่วประเทศไม่ต่างจากตัวอย่างที่ผมนำมาให้ดูครับ
ข้อมูลเหล่านี้มีปรากฎในเว็บของกรมฯ เป็นการแสดงความโปร่งใสของผู้บริหารกรมฯว่าไม่มีเจตนาจะปกปิดผลการประมูล ผมถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แต่ก็ไม่ช่วยให้การโกงหมดไป เขานินทากันว่ามีผู้ได้ประโยชน์ กินเปอร์เซ็นต์ร้อยละ 20 – 30 คิดจากเงินงบประมาณที่กรมฯได้รับ ปีละประมาณ 10,000 ล้าน คิดเป็นเงินที่โกงกันไป 2 – 3 พันล้านบาท นี่เฉพาะกรมเดียวนะครับ
งบประมาณแผ่นดินปีละ 2-3 แสนล้านบาท ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน หลับตานึกภาพกันเองว่า เงินภาษีถูกโกงไปปีละเท่าไหร่ ( ไม่นับเงินกู้นอกงบประมาณอีกหลายแสนล้านบาท )
ปัญหาคอรัปชั่นโกงกินเงินภาษีของประชาชนเป็นเรื่องร้ายแรง แต่สังคมเราทำเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติ มีไม่น้อยที่พูดว่า ใครๆ ก็โกงทั้งนั้น ที่ยังเป็นคนดีอยู่ได้ก็เพราะไม่มีโอกาส ไม่มีช่องทางต่างหาก
ถ้าจะขจัดปัญหาการโกงเงินหลวงให้หมดไป คงทำได้ยาก แต่ขจัดการโกงให้ลดน้อยลงมีความเป็นไปได้ถ้าเราได้ผู้นำที่ซื่อสัตย์และคนใน สังคมร่วมมือ แต่วันนี้เรายังไม่มีผู้นำที่มีคุณสมบัติดังกล่าว หน้าที่ของผมคือการนำข้อมูลที่ได้ไปพบไปเห็นมาเล่าให้ท่านเจ้าของเงินฟัง หวังแต่เพียงว่าเมื่อสังคมได้รับรู้ความจริง จะได้ตื่นตัวและเลิกคิดว่าปัญหาบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องของเราอีกต่อไป.
Tags: E-Auction, E-Corruption