ตาสว่าง-เพื่อสื่อ-เพื่อไทย
24 พฤษภาคม 2552
ตาสว่าง – เพื่อสื่อ – เพื่อไทย
ผมเดินทางไปโตเกียวเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ท่านนายกอภิสิทธิ์ติดภาระกิจ มอบให้ผมไปแสดงปาฐกถาแทนในงานของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นชื่อ นิกเกอิ การประชุมรูปแบบนี้จัดประจำทุกปีครับ
เมื่อไปถึงช่วงเช้าก็ได้เข้าพบเพื่อหารือกับท่านประธานสมา พันธ์นักธุรกิจของญี่ปุ่น ( keidenran ) ได้ถือโอกาสตอบข้อกังวลของนักธุรกิจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงการ จัดประชุมอาเซียนบวก ๓ บวก ๖ ที่พัทยา และเหตุการณ์การจราจลที่กรุงเทพ ได้ชี้แจงถึงแนวทางการแก้ปัญหาของท่านนายกอภิสิทธิ์เพื่อยุติความขัดแย้งใน สังคม และเล่ารายละเอียดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการสร้างงานของรัฐบาล รวมทั้งเชิญชวนให้นักธุรกิจญี่ปุ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการต่างๆ
คืนวันนั้นก็ได้ร่วมโต๊ะอาหารค่ำกับผู้นำของเอเซีย นับจากนายกประเทศเกาหลี เวียตนามและลาว อดีตนายกมาเลเซียมหาเธร์ รัฐมนตรีอาวุโสสิงค์โปร์ ลี กวน ยู อดีตนายกญี่ปุ่น รวมถึงท่านอาโสะ ( Aso ) นายกญี่ปุ่นเป็นผู้กล่าวปาฐกถาในคืนนั้น มีนักธุรกิจเข้าร่วมด้วยอีกกว่า 200 ท่าน
ส่วนการปาฐกถาของผมเป็นวันรุ่งขึ้นตอนบ่ายโมง ตามด้วยของท่านลีกวนยู เสร็จภารกิจผมเดินทางกลับทันที
ขณะที่ไปทำหน้าที่แทนท่านนายก ที่บ้านเรามีการพาดหัวข่าวโดยหนังสือพิมพ์ที่มีผู้อ่านมากเป็นอันดับต้นๆ ว่าผมกำลังจะย้ายวิก ไปอยู่พรรคเพื่อไทย ตามด้วยคำสัมภาษณ์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งบอกทำนองยินดีต้อนรับผม อีกคนหนึ่งบอกน่าจะทำงานกับคุณโอฬารได้ดีเพราะผมเคยทำงานร่วมกันมาก่อน (ผมไม่รู้จักท่านเลย)
รุ่งขึ้นมีข่าวลงต่ออีกว่าเมือผมถูกนักข่าวถาม ผมถึงกับอึ้ง ไม่มีคำตอบ ทำนองน้อยใจประชาธิปัตย์
กว่าผมจะรู้ตัว ( เพราะตลอดเวลาที่มีข่าวผมอยู่ที่โตเกียว ) ก็ถูกวิจารณ์ในทางลบตามเว็บต่างๆไปตามระเบียบ
ต้องพยายามชี้แจงกับสื่อทางโทรศัพท์ระหว่างสังสรรค์กับ เพื่อนปชป.ที่เกาะนางยวน นึกว่าจะจบ รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ได้ลงข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอีกหนึ่ง ฉบับ
เพื่อนสนิทมากๆบางคนถึงกับหลงเชื่อ โทรมาถามแบบไม่แน่ใจ ต้องตอบไปว่า 6 ปีที่ทักษิณเป็นนายก ผมตรวจสอบเขาเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่หนีภาษี เงินกู้พม่า แอมเพิลริช วินมาร์ค เขียนเป็นหนังสือก็ทำมาแล้ว ผมต้องไร้สติเสียจริงๆถ้าจะข้ามฝากไปเป็นลูกน้องทักษิณ
ส่วนที่ว่าน้อยใจพรรค ยิ่งไปกันใหญ่ ท่านนายกให้งานมากขนาดนี้ ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีเวลามานั่งน้อยใจกันหรอก
ผมไม่กังวลหรือโกรธเคืองที่สื่อลงเรื่องของผม เสียดายเพียงแต่ว่าน่าจะได้สอบถามกันก่อน
ที่กังวลคือ กลัวพี่น้องประชาชนจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนไม่มีอุดมการณ์และไม่มีความ ซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่ของการเป็นนักการเมืองที่ดี
ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นแผนชั่วร้ายของฝ่ายตรง ข้ามที่จะทำลายผมและพรรคปชป. ทำลายกันได้ทุกรูปแบบจริงๆเสียด้วย
คืนนี้จึงต้องนั่งตาสว่างเขียนบล๊อกระบายความในใจหน่อยครับ
Tags: พรรคเพื่อไทย, สัพเพเหระ