มารู้จักทักษิณ บนหมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น

Sun, Feb 7, 2010

English | ทักษิณ

มารู้จักทักษิณ บนหมู่เกาะบริติช เวอร์จิ้น

ตามมารู้จักนายกรัฐมนตรีของเรา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กันครับ มาดูกันซิว่า สมัยท่านเป็นนักธุรกิจ ท่านบริหารธุรกิจของท่านอย่างไร

ผมว่าเป็นประโยชน์มากเลยครับ…

จะได้เห็นวิธีการ ขั้นตอนสลับซับซ้อน น่าสนใจ และจะรู้และเข้าใจเลยว่า ทำไมถึงรวยได้เร็วจริง ๆ และจะได้รู้จักนายกฯทักษิณดีขึ้น

ตามมาดูในเรื่องของ “ หุ้น ” ครับ

มีคำถามมากพอสมควรว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน จึงโอนหุ้น ๘,๐๐๐,๐๐๐ กว่าหุ้น มีมูลค่ากว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท เอาไปให้แม่ครัวบ้าง พี่เลี้ยงบุตรบ้าง และยามที่อยู่ที่บ้านบ้าง

ต้องตามไปดู จึงจะจับร่องรอยได้

ไปดูว่าการโอนหุ้นนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ !!!

พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน โอนหุ้นให้กับนางสาวบุญชู ซึ่งเป็นแม่ครัว ๒,๗๙๔,๖๐๐ หุ้น

โอนหุ้นให้นางสาวดวงตา ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของบุตรของตัวเอง ๒,๗๙๒,๖๐๗ หุ้น

และโอนหุ้นให้นาย(ชัยรัตน์) ซึ่งเป็นยามที่บ้าน ๒,๖๑๙,๘๖๗ หุ้น

รวมทั้งหมดมีมูลค่ากว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ในขณะนั้น

ความจริงการโอนหุ้นในลักษณะนี้ ถ้าเป็นคนที่เคยอยู่ในตลาดทุน คนที่เคยเล่นหุ้นก็จะรู้ว่า ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณเอง คุณหญิงพจมานเอง ไม่ต้องการให้ใครรู้ ว่าตนเอง ซื้อหรือขายหุ้นที่ถือครองอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่เท่าใดและเมื่อไหร่

เหตุผลที่ทำก็รู้ๆ กันอยู่ในวงการตลาดหุ้นครับ

ดังนั้นการซื้อการขายหุ้นจะให้คนอื่นทำแทน ดูได้จากบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หุ้นในมือของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยครับ

ตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ เป็นต้นมา

มีการเพิ่มทุนครั้งใดก็ซื้อเพิ่ม ตามสัดส่วนที่ตัวเองมีสิทธิตลอดเวลา

มีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เมื่อโอนหุ้นให้ลูกชาย ตอนที่ตัวเองเข้ามาเล่นการเมือง

ที่ผมตั้งประเด็นไว้ตั้งแต่ต้นว่า ทำไมต้องไปโอนหุ้นให้อยู่ในชื่อของแม่ครัวบ้าง ยามบ้าง พี่เลี้ยงบุตรบ้าง คนเหล่านั้นไว้ใจได้แค่ไหน เพราะเงินนับหมื่นล้านบาทนะครับ

ต้องย้อนกลับไปดูว่า กลต. เขาจัดตั้งเมื่อไหร่

จะพบว่า กลต. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๓๕

พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ซุกหุ้นเมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ ดูตามวันที่แล้วก็จะพบว่าซุกหุ้นเป็นเวลา ๑ เดือน ก่อนกฎหมายประกาศใช้

ผมไม่อยากจะคิด แต่เชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะคุณหญิงพจมานและพ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้นที่ประพฤติอย่างนี้ เชื่อว่ามีบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก รู้และเข้าใจว่า เมื่อ กลต.เข้ามามีบทบาทควบคุมซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะซื้อขายหุ้นต้องแจ้ง กลต. ครับ

เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การโอนหุ้นของตัวเองไปซ่อนไว้ ไปซุกไว้ในชื่อคนอื่น กลต.จะได้จับผิดไม่ได้

ผมว่าตรงนี้เป็นเหตุผลที่สำคัญ

เพราะว่าการโอนหุ้นครั้งนี้ โอนเป็นจำนวนมาก โอนในเวลาเดียวกัน

คือโอนเพียง ๑ เดือน ก่อนที่ กลต.มีอำนาจเข้ามาควบคุมบริษัทเหล่านี้

คำถามที่ผมคิดว่าหาคำตอบได้ยากเต็มที เป็นประเด็นที่ต้องคิด เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานยอมรับว่า หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นของตัวเอง ปรากฏว่าการขายหุ้นเหล่านั้นได้เกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๔๐ – ๒๕๔๑ ได้ขายไปทั้งหมด

จริงๆแล้วในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๓๖ หุ้นในชื่อแม่ครัว พี่เลี้ยงบุตร และในชื่อของยามก็ขายไปหมดเกลี้ยง แต่ไม่ทราบว่าขายไปให้ใคร

เมื่อขายแล้วก็กลับมาซื้อใหม่ ซื้อมาขายไป ทำให้คนสงสัยว่าพฤติกรรมอย่างนี้เป็นการปั่นหุ้นหรือเปล่า เรื่องนี้มีคำถามมากมาย แต่หาคำตอบได้ยากเต็มที เพราะในขณะนี้การตรวจสอบเกือบจะไม่มี

ถ้าหากเราไปเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ กลต.จะบอกว่า เดี๋ยวนี้หลักฐานทั้งหมดหาไม่เจอแล้ว เพราะเรื่องมันนานเต็มที

ตามไปดูเรื่องหุ้นกันต่อครับ

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการขายหุ้นของตัวเองให้กับบริษัทข้ามชาติ การขายหุ้นในครั้งนั้นทำตอนที่มีการเพิ่มทุน

ในช่วงนั้น พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ถือหุ้นจำนวนใกล้เคียงกัน พ.ต.ท.ทักษิณถือหุ้นอยู่ ๓๒,๙๒๐,๐๐๐ หุ้น คุณหญิงพจมานถือหุ้น ๓๔,๖๕๐,๐๐๐ หุ้น

ช่วงที่มีการเพิ่มทุน คุณหญิงพจมานก็ได้เพิ่มหุ้นของตัวเองเป็นเท่าตัวครับ จาก ๓๔,๖๕๐,๐๐๐ หุ้น เพิ่มเป็น ๖๙,๓๐๐,๐๐๐ หุ้น แต่ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณที่มีหุ้นอยู่ ๓๒,๙๒๐,๐๐๐ หุ้น ไม่ได้เพิ่มขึ้นครับ

ส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้น ปรากฏว่าขายให้กับบริษัทข้ามชาติ บริษัทนี้มีชื่อว่า บริษัท Ample Rich Investments Limited ในทะเบียนหุ้น ระบุชัดเจนว่า บริษัทนี้ถือสัญชาติ บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ แปลความหมายง่ายๆ หมายความว่าบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ครับ

ตอนที่มีเรื่องคดีซุกหุ้นเกิดขึ้น กลต.มีความจำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบ พบว่าบริษัท Ample Rich Investments Limited ที่ผมเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า

พ.ต.ท.ทักษิณขายหุ้นให้บริษัทข้ามชาติบริษัทนี้ ปรากฏตามทะเบียนหุ้นว่าบริษัทนี้กลายเป็นบริษัทที่คุณทักษิณถือหุ้นไว้ทั้งหมด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ !!!

ฟังดูแล้วแปลกดีครับ คุณทักษิณขายหุ้นตัวเองให้กับบริษัทที่ตัวเองถือหุ้น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ครับ

คำถามที่ไม่มีคำตอบ และไม่มีใครรู้ได้นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณเองคือ

๑. ทำไมพ.ต.ท.ทักษิณต้องไปตั้งบริษัทไว้ที่หมู่เกาะ BVI ครับ ?

๒. ทำไมพ.ต.ท.ทักษิณต้องใช้บริษัทนั้นมาซื้อหุ้นของตัวเอง ?

๓. พ.ต.ท.ทักษิณใช้เงินที่ไหนในการซื้อหุ้นของตัวเองในครั้งนั้น ?

ประเด็นสำคัญพ.ต.ท.ทักษิณในฐานะผู้ขาย รับเงินการซื้อขายนี้แล้วนำเข้ามาในประเทศหรือเปล่า เอาไปไว้ที่ไหนครับ หรือในฐานะของผู้ซื้อนำเงินที่ไหนมาซื้อหุ้นจำนวนนี้

คำถามเหล่านี้ยังไม่มีคำตอบ

เวลาเราเข้าไปดูบริษัท Ample Rich Investments Limited เราจะเห็นว่าเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ( ชิน คอร์ปอเรชั่น ) แต่มีหลักฐานปรากฏว่า ปัจจุบัน พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทนี้แล้วครับ

รวมทั้งไม่มีใครรู้ว่า เวลานี้บริษัทนี้ใครเป็นเจ้าของ เมื่อเข้าไปตรวจสอบลึกๆพบว่าที่อยู่ของบริษัทนี้ไม่ได้ใช้ที่อยู่ที่ BVI แต่ปรากฏว่ามีที่อยู่ที่สิงคโปร์ครับ

เมื่อตรวจสอบหลายอัตรา ที่อยู่ของบริษัทนี้มีตัวตนหรือไม่ กลับพบว่าเป็นที่อยู่ของบริษัทชื่อ Petro-Asia Services Pte Ltd ครับ ชื่อเหมือนกับบริษัทค้าน้ำมัน ใช้ที่อยู่ที่เดียวกันกับบริษัท Ample Rich Investments Limited

ติดตามต่อไป กลับพบว่ามีการแตกหน่อออกไปอีก คือหลังจากบริษัท Ample Rich Investments Limited ซื้อหุ้นจากพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว ก็มีการแตกหน่ออีก เป็นอีกบริษัทหนึ่งแต่ใช้ชื่อเดียวกัน กลายเป็นสัญชาติอังกฤษ มีหุ้น ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ หุ้น เมื่อตรวจสอบที่อยู่ก็ใช้ที่อยู่ที่สิงคโปร์เหมือนกับบริษัท Ample Rich Investments Limited ที่ BVI กลายเป็นที่อยู่ของบริษัทชื่อ Pico Guards Pte Ltd เป็นบริษัทรับงานเรื่องยาม เรื่องรักษาความปลอดภัย

ที่ผมเล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ ผมอยากจะชี้ให้เห็นถึงความซับซ้อนของการทำธุรกิจของนายกฯทักษิณครับ

คงไม่มีคำตอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เขาทำอะไรกันอยู่

ท่านอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ท่านประเสริฐ นาสกุล เคยพูดเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของนายกฯทักษิณกับบริษัทข้ามชาติไว้อย่างน่าสนใจ ท่านได้เขียนไว้ในคำพิพากษาส่วนตนหัวข้อที่ ๑๐

ท่านพูดว่า “ อีกเรื่องหนึ่ง แม้เหตุการณ์ที่ผู้ร้องไม่ต้องยื่นบัญชีแล้ว เมื่อผู้ถูกร้องและคู่สมรสขายหุ้นบริษัท เอส ซี เค เอสเตท จำนวน ๓.๕ ล้านหุ้นเศษ และจำนวน ๒ ล้านหุ้น หุ้นละ ๑๐ บาท เป็นเงิน ๕๕ ล้านบาทเศษ ให้กับบริษัท Win Mark Limited ถือสัญชาติ British Virgin Island วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๓ ผู้ถูกร้องยืนยันว่า การขายหุ้นครั้งนี้เป็นการขายหุ้นตามปรกติ ไม่มีลักษณะการฟอกเงินแต่ประการใด”

ท่านเขียนต่อไปว่า “ ทำให้เกิดปัญหา สงสัย ต่อไปว่า บริษัทผู้ซื้อใช้เงินสกุลใด มาจากที่ใด ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ”

ท่านประเสริฐเขียนต่อนะครับว่า “ น่าเสียดายจัง ที่ผู้ถูกร้องไม่ได้อธิบายด้วย”

นี่แหละครับ คือการซับซ้อนการทำธุรกิจของท่านนายกรัฐมนตรี

เรื่องที่ขำไม่ออกก็คือ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๕ ซึ่งตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วครับ

วันนั้นมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องยุทธศาสตร์เพื่อการแข่งขันของเศรษฐกิจไทย ท่านพูดในที่ประชุมครับ ผมเอาคำพูดของท่านมา ท่านพูดในช่วงหนึ่งน่าสนใจมาก

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดหลายประเด็น (น่าจะเรียกว่าข้อไม่กำหนด) ที่ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศปวดหัวกับบริษัทที่ไปตั้งที่หมู่เกาะนี้ เพราะบริษัทเหล่านี้ใช้ BVI เป็นแหล่งหนีภาษีและฟอกเงิน (Tax Heaven Territory)

ท่านบอกว่า “ เมื่อวานผมได้ดูข่าวจาก CNN ทราบว่าขณะนี้สภาของสหรัฐกำลังแก้ไขกฎหมายใหม่ ทั้งนี้เพราะบริษัทต่างๆไม่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ แต่ไปจดทะเบียนในประเทศอื่นๆ เช่น ในปานามาบ้าง หรือที่หมู่เกาะ บริติช เวอร์จิน ไอร์แลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ไม่รักชาติ เพราะถือว่าเป็นการเลี่ยงภาษี เห็นได้ว่า แม้สหรัฐจะเป็นประเทศที่มีเสรีภาพสูงยังมีการดำเนินการเช่นนี้ ”

ท่านนายกรัฐมนตรียังพูดต่อนะครับว่า “ ก็อยากฝากให้คนไทยและบริษัทต่างๆมีความรักชาติด้วย ”

ที่ผมบอกว่าตลกไม่ออกก็เพราะว่า แปลว่านายกฯทักษิณท่านรักชาติเฉพาะตอนที่ท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรีเหรอ แล้วในอดีตก่อนที่ท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรี สมัยท่านทำธุรกิจของท่าน ท่านไปตั้งบริษัทข้ามชาติเหล่านี้ ในหมู่เกาะที่ท่านเป็นคนพูดเองว่าเป็นการเลี่ยงภาษี ท่านไม่ได้รักชาติด้วยใช่หรือไม่

นี่ก็เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ นอกจากว่านายกฯทักษิณเท่านั้นที่จะรู้ ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นทำเพื่ออะไรครับ

ที่เป็นประเด็นสำคัญและชี้ให้เห็นชัดเจน ว่าการดำเนินการในคดีซุกหุ้นส่วนที่พอจะหาหลักฐานได้เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายของ กลต. กลต.พิจารณาว่า คุณหญิงพจมานนั้นไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๔๖ และมีการเปรียบเทียบความผิด โดยคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับตามมาตรา ๓๑๗

เรื่องนี้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร โดนปรับไปเป็นเงินทั้งสิ้น ๖,๓๑๘,๐๐๐ บาทครับ

เรื่องของบริษัทที่ตั้งอยู่ที่หมู่เกาะบริติช เวอร์จิน ยังไม่จบง่าย ๆ ล่าสุดบริษัท Ample Rich Investments ถือหุ้น SHIN เป็นจำนวน ๒๒๙,๒๐๐,๐๐๐ หุ้น ( ร้อยละ ๗.๗๘ ) เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๗

ขอโทษนะ ตอนนี้ล่องหนหายตัวไปแล้วครับ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท SHIN อีกต่อไปแล้ว จากรายงานล่าสุด เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๗ สด ๆ ร้อนๆ เลยครับ

Ample Rich Investments ขายหุ้น SHIN ที่ถือครองไว้ถึงร้อยละ ๗.๗๘ ไปจนไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วครับ เป็นการขายล็อตใหญ่ กลต. ยังไม่เปิดเผยข้อมูล ถ้าตีราคาหุ้นละ ๔๐ บาท มูลค่าหุ้นก็เฉียด ๆ ๑๐,๐๐๐ ล้าน เกิดอะไรขึ้นครับเกี่ยวข้องกับฤดูเลือกตั้งหรือเปล่า เดายากครับ.

แบ่งปันเรื่องราว:
  • Print
  • del.icio.us
  • Facebook
  • email
  • PDF
  • Twitter

Tags: , ,

Leave a Reply

You must be logged in to post a comment.

Twitter

TwitPic

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
Korbsak.com
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ค้นหา