ลดค่าเงินบาท – นโยบาย ‘ ทักษิณคิด – เพื่อไทยทำ ‘
เดือด!กิตติรัตน์สั่งประสารต้องรับฟัง-เถียงให้น้อย ……สื่อพาดหัว คนหนึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีควบรมว.คลัง อีกคนเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ ใครผิด? ใครถูก?
เท่าที่เข้าใจ รมว.คลังอยากให้ค่าเงินบาทอ่อน เพราะต้องการสนับสนุนการส่งออก ส่วนผู้ว่าการธปท.ได้ฟังคำสั่งของรมว.คลังแล้วไม่เห็นด้วย ข่าวบอกว่า ‘เถียง’ รมว.คลัง เลยถูกดุผ่านสื่อ ไม่ทราบว่าเถียงอย่างไร ถ้าเป็นผม ผมจะเถียงอย่างนี้ครับ
1. รมว.คลังเคยบอกว่า ต้องการให้เศรษฐกิจโต วางเป้าหมายไว้สวยหรูถึงร้อยละ 7 สำหรับปีนี้ และจะใช้นโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศผลักดัน ไม่อาศัยฝีมือของผู้ส่งออกเหมือนในอดีต ทำไม่อยู่ดีๆถึงเปลี่ยนใจละครับ วันนี้เกิดคิดจะไปช่วยผู้ส่งออกอีกแล้ว รู้กันอยู่ว่าบาทแข็งคนไทยได้ประโยชน์ คนไทยพกแต่เงินบาทในกระเป๋า บาทมีค่าก็จับจ่ายใช้สอยได้คล่องตัวขึ้น (ซื้อน้ำมันได้ถูกด้วย) สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ ต้องถามกลับว่า ทำไมประกาศนโยบายอย่าง แล้วปฎิบัติอีกอย่าง
2. เราบริหารค่าเงินบาทแบบลอยตัว แปลว่า ปล่อยให้ค่าของเงินเป็นไปตามธรรมชาติ เข้าแทรกแซงบ้างบางครั้งเพื่อไม่ให้ค่าเงินผันผวนมากเกินไป เอกชนที่ค้าขายกับต่างประเทศจะได้มีเวลาปรับตัวทัน ถ้ารัฐมนตรีต้องการให้บาทอ่อน ท่านจะใช้วิธีไหนครับ ลดค่าเงินหรือจะให้แทรกแซง แทรกแซงขณะที่ค่าเงืนกำลังไหลไปในทิศทางบวกเท่ากับเป็นการฝืนธรรมชาตินะ เหมือนกับการว่ายทวนน้ำ ท่านแข็งแรงจริงหรือ ไม่กลัวหรือครับว่า ท่านว่ายทวนน้ำอาจหมดแรง ไปไม่ถึงฝั่ง จมน้ำตายเหมือนเมื่อปี ’40 ก็เป็นได้
3. สมมุติว่าท่านมีแรงพอว่ายทวนน้ำไหว แต่ก็ต้องใช้พลังงานมากนะ การแทรกแซงค่าเงินเสียค่าใช้จ่ายสูงครับ ต้องเทกระจาดขายเงินบาทให้มากๆ ( ซัพพลายเทียม ) แปลว่าต้องทุ่มขายเงินบาทในตลาดเพื่อให้ค่าเงินบาทอ่อน เมื่อขายบาทได้เป็นดอลล่าห์แล้ว เก็บดอลล่าห์ไว้ก็ไม่ได้ประโยชน์ ถือไว้ได้ระยะหนึ่งก็ค้องนำไปซื้อเงินบาทคืน กระบวนการทั้งหมดนี้เรียกว่า ‘ spot ‘ และ ‘ swap ‘ รวมกันเป็นตัวเลขที่เรียกว่า ‘ forward ‘ วุ่นวายน่าดู ค่าใช้จ่ายก็สูง
นอกจากนั้นแล้วธปท.ยังต้องซื้อเงินบาทเพื่อดูดเงินออกจากระบบ (เพราะขายบาทเทียมไปมาก) ธปท.ต้องออกพันธบัตรเงินกู้ เสียค่าใช้จ่าย( ค่าดอกเบี้ยให้ประขาขน) อีก ที่ผ่านมา ธปท.ได้แทรกแซงตลาดแบบเบาๆ แต่ก็มีตัวเลขขาดทุนสะสมที่เกิดจากการทำ ‘forward’ และการออกพันธบัตร กว่า 3 แสนล้านบาทแล้วมั้ง และถ้าให้ทำตามนโยบาย ‘ ทักษิณคิด ‘ อีก จะไม่หมดตัวหรือไง
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยากคิดอยากทำอะไรต้องระมัดระวัง รอบคอบหน่อยน่าจะดี คนเขากำลังเข้าใจว่าที่ท่านกำลังทำอยู่เนี่ยได้รับคำสั่งมา เป็นไปตามนโยบาย ‘ ทักษิณคิด ‘ ที่โฆษณาไว้นั่นละครับ อย่าให้ผู้คนเขานินทาเลยว่ามีคนแอบสะสมเงืนดอลล่าห์ตอนบาทแพงไว้ตุงเต็มกระเป๋า ลดค่าเงินบาทเมื่อไหร่ก็รวยเละเข้าไปอีก
ผมว่าคนไทย(ส่วนหนึ่ง) ยังจำแม่นอยู่ ว่าสมัยที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อชวลิต ยงใจยุทธ และมีรองนายกรัฐมนตรีชื่อ ทักษิณ ชินวัตรนะ ใครได้ใครเสียบ้างหลังจากลดค่าเงินบาท