Black Tuesday เตือนสติ กบข. และ สปส.

Black Tuesday เตือนสติ กบข. และ สปส.

4 มกราคม 2550

กบข. เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่มีกฎหมายกำกับโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับ สปส. กบข. ชื่อเต็มว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ส่วน สปส. คนใช้แรงงาน มนุษย์เงินเดือน รู้จักกันดีในชื่อ สำนักงานประกันสังคม

กบข. มีสมาชิกเป็นข้าราชการ กว่า 1.1 ล้าน คน

table1

ส่วน สปส. นั้น มี สมาชิก มากกว่า 8.5 ล้านคน

table2

ถึงวันเงินเดือนออก สมาชิกของทั้งสองหน่วยงาน ถูกหักเงินเดือน ส่งในรูปแบบของเงินออมตลอดระยะเวลาของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือ เป็นลูกจ้างเอกชนทั่วไป ขออนุญาตไม่พูดถึงผลประโยชน์ที่สมาชิกพึงได้รับ แต่จะเล่าให้ฟังว่า เงินออมทั้งหมดนี้ ทั้งสองหน่วยงาน คือ กบข. และ สปส. นำไปลงทุน ให้ได้ดอก ได้ผล เพื่อสมาชิกอย่างไร

กบข. มีเงินที่สามารถนำไปลงทุนเกือบ 3 แสนล้านบาท สปส. ไม่น้อยหน้า ไปกว่ากัน มีมาก เกือบถึง 4 แสนล้านบาท เป็นเงินออมของพวกเราจำนวนมหาศาลทีเดียว ครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน

เงินจำนวนมาก ลงทุนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ครับ มีกฎ มีระเบียบ มีขั้นตอน และแน่นอน ลงทุนง่ายสุด หนีไม่พ้น ฝากธนาคาร หรือ ไม่ก็ให้รัฐบาลกู้ ช่วง 3-4 ปีก่อน ผลตอบแทนจากเงินฝาก ไม่ค่อยจะดี ดอกเบี้ยต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้ ไม่ให้ผลตอบแทนที่ประทับใจ ทั้งสองหน่วยงานจึงมีการนำเงินลงทุนส่วน หนึ่ง ซื้อหุ้นของบริษัท ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ที่ผ่านมาผลตอบแทนใช้ได้ ทำให้ ผลงานของทั้งสองหน่วยงานเป็นที่พอใจของสมาชิกพอสมควร

ลองอ่านรายงานของ สปส. เกี่ยวกับผลการลงทุนดูครับ

table3

ส่วนนี้เป็นรายงานของ กบข.

table4

อ่านแล้วพอจะเข้าใจได้ว่า สมาชิก ของทั้ง กบข. และ สปส. ได้ผลประโยชน์ มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความสามารถ ในการลงทุนของผู้บริหารอย่างแท้จริง

ดูรายละเอียดกันหน่อยครับ ตามไปดูกันว่า เงินออมของพวกเรา กบข. และ สปส. เอาไปลงทุน ซื้อหุ้นตัวไหนบ้าง และซื้อไว้มาก น้อยเพียงใด

ผมนำข้อมูลการลงทุน ของ กบข. และ สปส. สำหรับการซื้อ หุ้น 10 ตัวยอดฮิต มีตารางเปรียบเทียบ ราคาหุ้น เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2549 และวันที่ 20 ธันวาคม 2549 โดยกระโดดข้าม Black Tuesday วันที่ 19 ธันวาคม2549ไป นอกจากท่านผู้อ่านจะได้ทราบจำนวนหุ้นที่ กบข. และ สปส. ซื้อเก็บไว้แล้ว ยังจะได้เห็นมูลค่าหุ้นที่หดหายไปด้วย

table6

เห็นตัวเลขแล้วอย่าไปเหมาว่า ฝีมือธนาคารชาติ ทำให้ กบข. ขาดทุน เกือบ 2 พันล้าน และ สปส. ขาดทุน กว่า 760 ล้านนะครับ คิดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะทั้งกบข. และ สปส. ลงทุนซื้อหุ้นแต่ละตัว ก่อนวันที่ 18 ธันวาคม2549 แน่นอน เราไม่อาจทราบถึงต้นทุนที่แท้จริงได้

แล้วตัวเลขมีความหมายอย่างไร

อาจเรียกได้ว่า เป็นจำนวนผลประโยชน์ที่หดหายไป หรือเรียกว่า “ขาดทุนกำไร” คำพูดที่เราใช้ ปลอบใจกันบ่อยๆ ผมหวังแต่เพียงว่าทั้งสองหน่วยงานไม่ได้ ตกอกตกใจ ขายหุ้นทิ้งไปในวัน Black Tuesday นะครับ เพราะถ้าพลาดไปจริง ถือได้ว่า ขาดทุน ยับเยินเลยทีเดียว

ที่แน่นอนเถียงไม่ได้ก็คือ สถาบันลงทุนรายใหญ่ที่เป็นของ คนไทยเกือบ 10 ล้านคน จะไม่ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน ตามที่คาดหมายหรือตั้งเป้า ไว้อย่างแน่นอน ความผิดพลาดในครั้งนี้ท่านสมาชิกคงจะโทษผู้บริหาร กบข. และ สปส. ไม่ได้ทั้งหมด อาจจะโวยวายได้บ้างว่า นำเงินของพวกเราไปเสี่ยงลงทุนซื้อหุ้นมากเกินไปหรือเปล่า

Black Tuesday ถือได้ว่า เป็นบทเรียน เป็น wake up call เป็นการเตือนสติผู้บริหารทั้ง กบข. และ สปส. จากนี้ไปการลงทุนในตลาดทุนของเราต้องระมัดระวังให้มากกว่าเดิม จะมีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะไม่มีใครช่วยประคับประคองตลาดหุ้นเช่นรัฐบาลในระบอบทักษิณ ที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากคนในรัฐบาลมีผลประโยชน์ในตลาดมากมายแบบที่รู้ๆ กันอยู่

สำหรับ กบข. และ สปส. นั้น นอกจากจะต้องกังวลถึงปัจจัยเสี่ยงจากนอกประเทศที่อาจคาดไม่ถึง เหมือนนักลงทุนอื่นแล้ว กบข. และ สปส. ยังจะต้องคำนึงถึงมาตรการ นโยบาย ของพวกเรากันเอง ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเช่นกัน อังคารทมิฬน่ากลัวแค่ไหน คงไม่ต้องย้ำกันอีก ใช่ไหมครับ.

แบ่งปันเรื่องราว:
  • Print
  • del.icio.us
  • Facebook
  • email
  • PDF
  • Twitter

Tags: , ,

Comments are closed.

Twitter

TwitPic

    " width="70" height="70" style="margin: px; border: 1px solid cccccc;" class="twitpic" />

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
Korbsak.com
กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

ค้นหา