กอร์ปศักดิ์-วีระ
เมื่อคืนวันพุธที่ ๒๘ ก.ค. ผมได้รับหมายศาลให้เป็นพยานในการไต่สวนคดีของศาลอาญาเกี่ยวกับกรณีที่คุณวีระได้ขอประกันตัวในระหว่างการสู้คดี โดยศาลมีคำสั่งให้ผมไปที่ศาลอาญาในเวลา ๐๙๐๐ น. ของเช้าวันที่ ๒๙ ก.ค.
ผมไม่สันทัดเรื่องคดีความจึงได้สอบถามเพื่อนสส.ที่เป็นทนายให้ช่วยอธิบายว่าทำไมศาลถึงออกหมายเรียกและผมต้องปฎิบัตืตามคำสั่งอย่างไร
ได้ความว่าคุณวีระได้ขอประกันตัวไว้ที่ศาลอาญาซึ่งศาลอาญาไม่อนุญาต และต่อมาทนายของคุณวีระได้ขออุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แจ้งศาลอาญาให้มีการไต่สวนเพิ่มเติม ในการไต่สวนนี้ผมได้รับหมายจากศาลให้ไปให้คำให้การ
เมื่อเป็นหมายศาล ผมต้องปฎิบัติตามคำสั่งของศาล ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
การให้ปากคำต่อศาลมีเพียงประเด็นสั้นๆ ใช้เวลาไม่เกิน ๑๕ – ๒๐ นาที
เริ่มที่การเจรจาระหว่างรัฐบาลและนปช. ทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผย ซึ่งผมได้ให้การไปว่าผมมีส่วนในการเจรจาโดยเฉพาะในทางที่ไม่เปิดเผยหลังจากที่ท่านนายกอภิสิทธิ์ได้ประกาศแผนปรองดอง ๕ ข้อเมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคมและคุณวีระในฐานะประธานนปช.ได้ประกาศยอมรับแผนปรองดองที่รัฐบาลเสนอในวันรุ่งขึ้น
ผมให้การต่อด้วยว่าแผนปรองดอง ๕ ข้อมีรายละเอียดมาก จึงได้มีการเจรจาในอีกหลายประเด็น ทุกครั้งที่คุณวีระตกลงในเนื้อหา คุณวีระจะนำกลับไปหารือกับแกนนำคนอื่นๆ และกลับมาเจรจาต่อพร้อมกับการเพิ่มข้อต่อรองเกือบทุกครั้ง
หลังจากเจรจาผ่านไปสองสามครั้ง ผมได้บอกไปว่าการเจรจาต้องมีวันสิ้นสุด คุณวีระบอกกับผมว่า “ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยกับผมในครั้งนี้ ผม(คุณวีระ)คงต้องขอลาออกจากการเป็นประธานของนปช.” ผมให้การต่อด้วยว่าผมไม่ทราบว่าคุณวีระได้ลาออกจากการเป็นประธานนปช.หรือไม่ในภายหลัง
ผมให้การต่อว่า ผมได้คุยกับคุณวีระทางโทรศัพท์อีกหลังจากที่การเจรจาล้มเหลวโดยคุณวีระบอกว่าเขาไม่ได้เข้าร่วมที่เวทีชุมนุมอีกแล้ว
หลังจากมีการยุติการชุมนุมในวันที่ ๑๙ และแกนนำคนอื่นๆมอบตัว คุณวีระได้โทรหาผมเพื่อขอให้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงว่าพร้อมมอบตัวเพื่อสู้คดี ไม่ได้คิดจะหนีไปไหน
ผมทราบว่ามีพยานอีกจำนวนหนึ่ง แต่ผมเป็นพยานแรกและได้เดินทางกลับก่อน
ศาลท่านเป็นผู้วินิจฉัยว่าคุณวีระสมควรได้รับการประกันตัวหรือไม่อย่างไร ซึ่งมีการอ่านคำวินิจฉัยในวันรุ่งขึ้น
มีท่านที่ไม่พอใจ ส่งข้อความถึงผม ใช้คำรุนแรงว่าการกระทำของผมช่างบัดซบ บางท่านกล่าวหาว่าผมรับสองทาง หาว่าผมเลวไม่ต่างกับฆาตรกร ว่าไปถึงวงศ์ตระกูล ที่หยาบคายจนถึงไม่ควรนำมาเล่าให้ฟังก็มี ส่วนนี้ผมไม่ตอบโต้
สำหรับบางท่านต่อว่าผมว่าไปศาลทำไม ผมตอบได้แต่เพียงว่าทุกคนรวมทั้งตัวผม ควรเคารพต่อคำสั่งศาล
บางท่านกล่าวว่าผมไม่ควรให้การที่เป็นคุณประโยชน์ต่อคุณวีระ ผมตอบได้ว่าการให้การในศาลต้องพูดแต่ความจริง พูดเท็จใส่ร้ายใครไม่ได้
ผมเข้าใจที่หลายท่านโกรธและเห็นว่าผมทำไม่ถูก ผมคงไม่สามารถเปลี่ยนใจท่านได้ ผมเองมีความรู้สึกไม่ต่างกับหลายท่านต่อผู้ที่ทำร้ายบ้านเมืองของเราแต่ผมมีหน้าที่และต้องเคารพกติกาและกระบวนการยุติธรรม ผมขอให้ท่านได้เข้าใจสักนิดว่าบ้านเมืองของเราจะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อขบวนการยุติธรรมทำงานได้เท่านั้น ใช้ความรู้สึกโกรธ เกลียด ไม่น่าจะแก้ปัญหาได้
บางท่านเริ่มกังวลว่าแกนนำคนอื่นๆจะได้รับการประกันตัว ศาลท่านเป็นผู้วินิจฉัยครับว่าใครสมควรหรือไม่สมควรได้รับการประกันอย่างไร ไม่ใช่เลขานายก นายก หรือรัฐบาล ผมอยากจะขอร้องให้เชื่อมั่นในขบวนการยุติธรรมเพื่อบ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไปได้