บาทสุดท้าย
ปัญหาอยู่ที่เงินดอลล่าห์ครับ ไม่ใช่เงินบาท ค่าเงินดอลล่าห์ต่ำสุดในรอบ๑๓ปีที่ผ่านมา เมื่อดอลล่าห์อ่อนเงินสกุลประเทศอื่นๆ รวมทั้งเงินบาทไทยจึงปรับตัวแข็งขึ้น ประเทศใดเงินแข็งมากน้อยกว่ากันอย่างไร อยู่ที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ รวมทั้งวิธีการแก้ไขปัญหา
ถ้าจะแก้ปัญหาให้ถูกจุด ควรเริ่มหาสาเหตุจากต้นตอของปัญหาคือเงินดอลล่าห์ก่อน ต้องถามว่าค่าของเงินดอลล่าห์ จะอ่อนลงลึกไปกว่านี้หรือไม่ นานแค่ไหน
ท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อยคงคิดในใจว่า สหรัฐฯเก่งจะตายไป ( เที่ยวนี้อาจตายจริง ) เศรษฐกิจสหรัฐฯเดียวก็คงฟื้น สำหรับท่านที่มองต่างมุมอาจบอกความในใจว่า เงินดอลล่าห์คงจะมีค่าประมาณ toilet paper กระดาษชำระในอนาคต
ดูจากอดีตกันซักนิดครับ ๒๕ ปีที่แล้ว ที่โรงแรมหรูในนิวยอร์ค ชื่อ The Plaza รัฐมนตรีคลังของประเทศยักษ์ใหญ่ได้สุมหัวประชุมลับกัน มีทั้งหมด ๕ ผู้ยิ่งใหญ่ ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐ ฝรั่งเศษ และเยอรมันตะวันตก
ผลการประชุมเป็นอย่างนี้ครับ ตกลงให้มีความร่วมมือเพื่อกำหนดมาตรการที่จะทำให้ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐอ่อนลง เรียกข้อตกลงสวยหรูนี้ว่า The Plaza Accord ได้ผลครับ เวลาผ่านไปสองปี ค่าเงินดอลล่าห์สหรัฐฯร่วงไปร้อยละ ๕๔ สาเหตุที่ต้องพร้อมใจกันแก้วิกฎติค่าเงินดอลล่าห์เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯมีปัญหา งบประมาณประเทศขาดดุลมหาศาล ค่าเงินดอลล่าห์ในขณะนั้นแข็งเกินความเป็นจริง รายได้จากการส่งออกตกต่ำ คุ้นๆนะครับ ปัญหาของสหรัฐฯ
ไม่คุ้นได้อย่างไร ถึงแม้ปัญหาอาจเกืดจากสาเหตุที่ต่างจากเมื่อ ๒๕ ปีที่แล้ว แต่ผลไม่ต่างกันเลยครับ งบประมาณแผ่นดินของสหรัฐฯกลับมาขาดดุลอีกครั้ง เที่ยวนี้หนักกว่าเดิม ต้องกู้เงินจำนวนมาก ( พิมพ์เองมากกว่า) มาใช้ในการแก้ปัญหาวิกฤติการเงินของประเทศ เที่ยวนี้ไม่ต้องมีการสุมหัวกันแก้ปัญหา เพราะเกือบทุกประเทศซีกโลกตะวันตกได้ผลกระทบในทิศทางเดียวกัน
ถ้าดูอย่างนี้แล้วโอกาสที่ดอลล่าห์จะนิ่ง และปรับตัวแข็งขึ้นคงจะใช้เวลาหลายปี คาดเดายาก แต่ไม่น่าจะพลาดถ้าบอกว่า เงินบาทเข็มแข็งจะอยู่กับเราต่อไปอีกนาน
ไม่ควรถามว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาทำให้ค่าเงินบาทอ่อนได้อย่างไร รัฐบาลเองก็ไม่ควรตอบว่าจะแก้ปัญหาแบบไหน เพราะแก้ให้ค่าเงินบาทอ่่อนทำไม่ได้ครับ คำตอบที่รัฐบาลต้องบอกประชาชนคือ ทุกส่วนของสังคม รวมทั้งของรัฐฯ ต้องปรับตัว ใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนเพื่อให้สามารถยืนอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของโลกปัจจุบันได้อย่างชาญฉลาด รัฐบาลจะต้องช่วยทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อให้สังคมสามารถปรับตัวเองได้ทัน
ตกลงกันก่อนนะครับว่าเราจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ เปลี่ยนแปลงการหารายได้เข้าประเทศ ให้คนไทย ประเทศไทย ไม่ต้องหารายได้จากการพึ่งตลาดต่างประเทศเกินพอดี พึ่งตังเองให้มากสุดเป็นดีสุด วันนี้โลกแคบเต็มที ความไม่สมดุลมีมาก ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลของโลกใบน้อยนี้ไม่จบลงง่ายๆ วันนี้แก้ได้ พรุ่งนี้ก็กลับมาอีก
การเปลี่ยนแปลง การปรับตัว ต้องทำหลายอย่างควบคู่กันไป แต่ไม่ว่าจะมีมาตรการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด ต้องใช้เวลาครับ เวลาจึงเป็นเรื่องสุดสำคัญ
วันนี้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งขึ้นเร็วไปครับ ภาคธุรกิจปรับตัวไม่ทัน ถ้ารายได้ของภาคธุรกิจหดหาย ผลตามมาคือตัวเลขคนว่างงาน กระทบรายได้ของลูกจ้าง กระทบกำลังซื้อ กระทบเศรษฐกิจในวงกว้างครับ วันนี้ภาคธุรกิจต้องการเวลาครับ
โจทก์แรกคือรัฐ ( ธนาคารแห่งประเทศไทย) ต้องดำเนินมาตรการเพื่อชลอค่าเงินไม่ไห้แข็งเร็วเกินไป ทำได้หลายวิธี การแทรกแซงค่าเงินต้องทำอย่างต่อเนื่อง พิมพ์เงินบาทมาซื้อเงินดอลล่าห์ แล้วดูดเงินบาทคืนโดยการออกพันธบัตร มาตรการนี้เสียค่าใช้จ่ายมาก ทำให้ธปท.ขาดทุน แต่ธปท.ไม่มีทางเลิอก ต้องทำ
มาตรการผ่อนคลายให้เงินไหลออกง่ายขึ้นควรเร่งเครื่อง อย่าหน่อมแน้ม ถ้าไทยเราปล่อยให้เงินทุนไหลเข้าประเทศได้อย่างอิสระ ก็ต้องกล้าปล่อยให้เงินทุนไหลออกแบบสบายๆเหมือนกัน แต่ถ้าธปท.มีความคิดที่จะไม่ให้เงินทุนไหลเข้าประเทศฟรีๆ อาจดูตัวอย่างจากบราซิลที่เก็บภาษีเงินทุนเข้าประเทศเพิ่มจากอัตรา ๒% เป็น ๔% พิสูจน์แล้วว่าได้ผลเพียงแค่จิตวิทยา ค่าเงิน real บราซิล ยังแข็งอย่างต่อเนื่อง ธปท.อาจต้องเก็บความคิดนี้ขึ้นหิ้งไว้ก่อน
ช่วงนี้ทุกคนเฝ้าดูว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีการปรับขึ้นหรือไม่ กูรูทั้งหลายถกเถียงกันอย่างเผ็ดมัน ข้อยุติคงอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการการเงิน ผมไม่เห็นตัวเลข ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าธปท.จำเป็นต้องขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปอีก ก็ทำไปเถอะ เงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง ผมเพิ่งจะรับจ๊อบการแก้ปัญหาค่าครองชีพจากท่านนายกฯมาหมาดๆ ต้องพึ่งธปท.เรื่องเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก
ธปท.น่าจะต้องมีบทบาทมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ในอดีตธปท.สามารถให้ soft loan เพื่อสนับสนุนภาคเศรษฐกิจบางประเภทเช่นภาคการเกษตร ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว วันนี้อาจต้องกลับมาคิดใหม่ กฎหมายถ้าต้องแก้ก็ควรทำ
หลักคิดของผู้กำหนดนโยบายต้องอยู่ในโหมดของการทำให้ค่าเงินบาท ไม่ให้ผันผวน ไม่แข็งค่าเร็วเกิน ซื้อเวลาให้ภาคธุรกิจได้ปรับตัวทัน
ภาคธุรกิจน่าจะเดินหน้าอย่างนี้ครับ เร่งปรับปรุงเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในขบวนการการผลิตให้มีความทันสมัยเป็นเยี่ยม ใช้โอกาสที่ค่าเงินบาทแข็งสั่งซื้อเครื่องจักรกลจากต่างประเทศ ขบวนการการผลิตที่ทันสมัยจะช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ไม่ต้องใช้ค่าเงินเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจมากเกินควร ทำให้สามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับค่าเงินบาทแข็งได้
กรมจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลังต้องออกจากถ้ำเสียที มาตราการลดภาษีสินค้านำเข้าที่เป็นเครื่องจักรกล ไม่ต้องเก็บแล้ว กำหนดช่วงเวลาให้นำเข้าได้ภายในสองปี ประกาศทันที ไม่ใช่พรุ่งนี้ ไม่ใช่มะรืนนี้ ไม่ใช่ขอเวลาศึกษาก่อน เม็ดเงินลงทุนของธุรกิจในทางบัญชีต้องอนุญาติให้ใช้หักเป็นรายจ่ายเฉลี่ยเร็วขึ้นกว่าปัจจุบัน จูงใจกันอย่างเข็มข้น
ภาคธุรกิจขาดเงินทุนเพื่อปรับปรุงขบวนการผลิต สถาบันการเงินของรัฐฯต้องช่วยอย่างแข็งขัน soft loan ของธปท.ช่วยได้มาก ( ต้องรีบแก้กฎหมาย)
ราคาน้ำมัน ต้นทุนของทุกอย่าง ต้องให้สะท้อนข้อเท็จจริง บาทแข็งน้ำมันต้องถูกลง ถ้าราคาน้ำมันต่างประเทศไม่เคลื่อนไหวสวนทาง
แสดงความเห็นเหมือนกับไม่ได้เป็นรัฐบาล ความจริงเป็นการบ่นส่วนตัวมากกว่า เพราะภาระหน้าที่ของเลขาฯนายกรัฐมนตรีอยู่ในกรอบของผู้ปฎิบัติเท่านั้น ไม่มีส่วนในการกำหนดนโยบาย
วันนี้เผลอบ่นดังไปหน่อย พูดคุยออกนอกกรอบมากเกินพอดีไปนิดหนึ่งครับ