ผลงานออกแล้ว
29 เมษายน 2550
ไม่ได้พูดถึงผลงานรัฐบาลของเรานะครับ ผมกำลังพูดถึงผลงานของลูกน้องพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และไม่ใช่ลิ่วล้อทั้งหลายที่อยู่ในประเทศด้วย ผมหมายถึงบริษัทที่รับงานประชาสัมพันธ์เป็นลูกจ้างของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ชื่อบริษัท อีเด็ลแมน ( Edelman ) จากประเทศสหรัฐอเมริกาครับ
Edelman Helps Thaksin
The public relations company, Edelman, confirmed in January 2007 that its Washington and Hong Kong offices are handling media relations for Thaksin. “We are supporting him as a private citizen in his efforts to return back to his home country,” said Alan VanderMolen from Edelman Asia-Pacific.
จาก SourceWatch.org
นายเอแลนแถลงข่าวไว้เมื่อต้นปีนี้ครับ บอกสั้นๆแต่เพียงว่าช่วยทักษิณเพื่อให้กลับบ้านเกิดได้ ไม่ได้บอกว่าจะช่วยโดยวิธีไหน ถ้าจะให้เดากันก็ต้องเดาว่าเมื่อเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องช่วยในเรื่องของสื่อเป็นหลัก
ช่วงที่นิตยสารไทม์ลงหน้าปกรูปพ.ต.ท. ทักษิณพร้อมคำสัมภาษณ์ หรือที่ซี เอ็น เอ็น ออกอากาศสัมภาษณ์พ.ต.ท. ทักษิณ หลายคนเชื่อว่านี่แหละผลงานของอีเด็ลแมน แต่ก็เป็นเพียงเรื่องของการคาดคะเน ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกและชี้ชัดลงไปว่าเป็นฝีมือของบริษัทประชาสัมพันธ์ กลุ่มนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น
ท่านผู้อ่านที่สนใจงานของกระทรวงสาธารณสุข หรือท่านที่ได้ติดตามหรือมีส่วนร่วมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการรักษาโรคเอดส์ ทราบดีว่ารัฐบาลไทยโดยกระทรวงสาธรณสุขกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้ จ่าย ค่ายา ที่ต้องใช้ในการรักษาคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคเอดส์
แน่นอนครับ ผู้ผลิตยาคือผู้ที่เราต้องพูดคุยด้วยเพื่อหาแนวทางที่ไม่ให้ผู้ผลิตต้องเกิด ความเสียหายสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ ขณะเดียวกัน คงไม่มีรัฐบาลไหนปล่อยให้ชีวิตของพลเมืองของตนโดยเฉพาะคนยากไร้ที่ป่วยด้วย โรคเอดส์ ผูกไว้กับเรื่องของเงิน เรื่องของยาราคาแพงแต่เพียงอย่างเดียว
รัฐบาลไทยได้มีหนังสือถึงผู้ผลิตบริษัทแอบบ้อทท แลบ ( Abbott Laboratories ) เมื่อต้นปีนี้ครับ ผมไม่ได้เห็นข้อความทั้งหมดแต่จากรายงานข่าวระบุว่า ไทยจะใช้สิทธิที่มีตามข้อตกลงที่มีไว้กับ ดับบลิว ที โอ อนุญาตให้มีการนำเข้าหรือผลิตยาที่ไม่มีสิทธิบัตรได้ เพราะราคาจะถูกกว่ามาก ( ยาตัวนี้ชื่อ Kaletra ) ทำให้บริษัทแอบบ้อทท แลบ ตอบโต้โดยขู่ว่าจะไม่นำเข้าตัวยาใหม่ในประเทศไทย ต่อมาเสียงอ่อยลงและยินยอมที่จะลดราคา ผมไม่ทราบในรายละเอียดครับ ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีข้อขัดแย้งกัน ก็เจรจากันไป
ประเด็นของผมไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาของความขัดแย้ง แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่า มีความไม่ปกติ เหมือนกับมีขบวนการที่มีการวางแผนเพื่อใส่ร้าย ทำความเสียหายให้กับรัฐบาลไทย และ คมช. มีขบวนการแปลว่ามีหลายตัวละคร จำเป็นที่ต้องปูพื้นตัวละครในเรื่องนี้กันก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วท่านผู้อ่านจะสับสน
ผมเริ่มต้นไว้ที่บริษัท อีเด็ลแมน ( Eldeman ) ว่าเป็นลูกจ้างของคนชื่อทักษิณ ชินวัตร อีเด็ลแมนนับเป็นตัวละครตัวแรกก็แล้วกัน
ตัวละครตัวที่สองที่มีบทบาทอย่างมากในขณะนี้คือ ยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น ( USA for Innovation )
ยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น ( USA for Innovation ) เป็นองค์กรที่เรียกว่า เอ็น จี โอ มีผู้บริหาร
( Executive director ) ชื่อนายเคน เอเด็ลแมน ผมนับเป็นตัวละครตัวที่สาม สำคัญที่สุด เป็นหัวหน้าทีม
เมื่อเรียกเป็นหัวหน้าทีมแล้วก็ต้องแนะนำตัวกันเสียหน่อย นายคนนี้มีประวัติย่ออย่างนี้ครับ
Ken Adelman, also known as Kenneth L. Adelman, served as Assistant to U.S. Secretary of Defense Donald Rumsfeld from 1975 to 1977. Adelman was U.S. Ambassador to the United Nations during the Ronald Reagan administration as well as serving as Reagan’s director of arms control. He is a frequent media commentator including with Fox News, CNN, NPR.
He is the Executive Director of USA for Innovation. A biographical note states that he has been the national editor of Washingtonian magazine “for 15 years and is a senior counselor at Edelman Public Relations Worldwide
จาก SourceWatch.org
สมกับเป็นหัวหน้าทีม ไหมครับ ใหญ่โตไม่เบา เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม เคยเป็นถึงทูตสหรัฐประจำยูเอ็น ปัจจุบันเป็นผู้บริหารให้กับตัวละครที่สอง ยูเอสเอ ฟอร์อินโนเวชั่น และเป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับอีเด็ลแมน สรุปตัวละครสามตัว เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งสิ้นและเป็นกลุ่มที่พ.ต.ท. ทักษิณ ว่าจ้างให้ทำงานประชาสัมพันธ์ให้ครับ
เดิมผมก็ไม่ได้คิดว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับพ.ต.ท. ทักษิณ เปลี่ยนใจเมื่อเช้านี้เอง ( 29 เมษายน ) ครับ เพราะได้อ่านบทความที่นายเคนได้เขียนลงหนังสือพิมพ์วอชิงตันไทมส์ ( Washington Times) แล้วจึงถึงบางอ้อครับ เรื่องสิทธิบัตรยาเป็นเพียงข้ออ้าง เป้าหมายที่แท้จริงคือเล่นงานรัฐบาลไทยที่มาจากการปฎิวัติ พร้อมกับใส่ร้ายคณะทหาร และแน่นอน บทความย้ำให้เห็นว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เจ้านายของบริษัทอีเด็ลแมน เป็นนายกที่มาจากการเลือกตั้ง และถูกขับไล่ ( disposed ) จากตำแหน่ง ใช้ภาษาเดิมๆ ไม่ต่างกับสำนวนที่ทีมงานลอบบี้ยิ๊สต์ เบเกอร์ บอททส์ ( ลูกน้องพ.ต.ท. ทักษิณ อีกเช่นกัน ) ใช้ในการรายงานรัฐสภาสหรัฐ
ผมนำบางส่วนของบทความมาให้อ่านกันครับ
Troubles from Thailand
By Ken Adelman
April 27, 2007
“…………… In September 2006, Thailand’s democratically elected government was toppled in a military coup, while Prime Minister Thaksin Shinawatra was deposed while addressing the U.N. General Assembly……………… Shortly after taking power, the coup leaders hastily and shortsightedly announced new foreign capital controls………….This political and economic recklessness is already taking a punishing toll. Foreign direct investment is understandably being scared off. Several estimates project Thai growth at less than 4 percent this year, far below the 7.3 percent that the World Bank forecasts for the economies of East Asia. …….
Most recently, the government brazenly announced it was breaking patents on drugs produced by Western corporations. And while this action is in line with the rampant theft of U.S. innovation in Thailand, it is also glaringly self-serving. An official Thai spokesman admitted busting patents “will be good for local pharmaceutical companies to improve their capacity.” Perhaps unsurprising, one local pharmaceutical supplier happens to be owned by the Thai government, the Government Pharmaceutical Organization.
Surely Thai officials in D.C. will offer some lame excuses. When making the rounds this week, its health minister will claim that his government must break U.S. patents since it cannot afford to pay for patented pharmaceuticals and other medicines.
This doesn’t fly. For his government somehow could afford a pay raise for the regime’s military buddies of $9 million, and to boost its overall military budget by a whopping $1 billion. ( อ่านบทความทั้งหมดที่ Troubles from Thailand )
ไม่ใช่แค่บทความเท่านั้น นายเคนยังได้ให้ ยูเอสเอ ฟอร์อินโนเวชั่น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ วอลสตรีท เจอร์นัล เปิดแนวรบกับรัฐบาลไทยพร้อมกันด้วย และแน่นอนครับ ตัวที่เกิดความขัดแย้ง คือปัญหาของราคายา ปัญหาเรื่องสิทธิบัตร มีการกล่าวถึงน้อยมาก นี่ครับที่เขาจะลงโฆษณา
ลองอ่านโฆษณาที่แปลเป็นไทยดูครับ
ผมอ่านแล้วก็เป็นงงที่สุด ใช้คำพูดว่า ขำกลิ้ง น่าจะเหมาะกว่า ไร้สาระสิ้นดี แต่เสียหายมาก เพราะผู้อ่านต่างชาติจำนวนมากที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเทศไทย พอได้ยินว่าไทยกำลังจะเดินแนวเดียวกับพม่า ก็เริ่มรังเกียจแล้ว โยงคำว่าพวกเผด็จการทหาร อุ้มฆ่าฝ่ายตรงข้ามเข้าไปอีก ทีนี้เชื่อสนิทเลย
ท่านผู้อ่านครับ ที่คำโฆษณาไม่เอ่ยถึงกำไรสุทธิของบริษัทเมื่อปี่ที่ผ่านมาว่าเพิ่มเป็น 4.1 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 143,500 ล้านบาท นั้นก็พอจะเข้าใจได้ ใช่ไหมครับ แต่การที่ไม่พูดถึงความทุกข์ยากลำบากของผู้ป่วยจากโรคเอดส์ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่ายาเพื่อให้อยู่ รอด มีลมหายใจไปวันๆ หรือที่ไม่ชี้ให้เห็น ไม่แสดงถึงเหตุผลว่าทำไมต้องจำปรับราคายาสูงขึ้นตลอดเวลา อย่างนี้รับไม่ได้ครับ
อ่านทั้งบทความ ทั้งที่โฆษณา เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายคืออะไร
ผมถึงบอกแต่ต้นว่า ผลงานออกมาแล้ว
รัฐบาลไทยและคมช. หล่ะครับ จะทำเรื่องนี้ให้ชาวโรคเขาเข้าใจเราได้อย่างไร
Tags: ล๊อบบี้ยิส