ผลงานออกแล้ว (ต่อ)
English
นายเค็น เอเดอร์แมนทำงานได้ผลครับ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 รัฐบาลสหรัฐประกาศให้ประเทศไทยติดอันดับในชื่อของประเทศที่ถูกจับตามองเป็น พิเศษ (พีดับบลิวแอล) ประกาศโดย สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ นายเค็นอ้างว่าเป็นผลงานของตน เพราะหลังจากที่ได้มีการประกาศรายชื่อ ในวันเดียวกันนายเค็นก็ออกแถลงการณ์ในนามของยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น แสดงความยินดีต่อสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ ที่ได้ทำตามข้อเสนอแนะของยูเอสเอ ฟอร์ อินโนเวชั่น
นายเค็นมีสิทธิอ้างผลงานครับ เพราะเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2550 นายเค็นได้ร่อนจดหมายส่งไปให้หน่วยงานของสหรัฐถึง 4 แห่ง 1 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการพิจารณาประกาศปรับรายชื่อกลุ่มประเทศผู้ที่ละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบต่างๆ จดหมายฉบับดังกล่าวมีเนื้อหากล่าวร้ายป้ายสีประเทศไทยตามสไตล์ของนาย เค็น แต่ที่เกี่ยวกับประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับบลิวแอล) จะอยู่ที่ข้อ 3 ของจดหมายฉบับนี้ครับ
3) The Office of the United States Trade Representative should elevate Thailand to the Priority Watch List of its 2007 Special 301 Report based on escalating problems in enforcing all manner of IP protection in Thailand and on the government’s new campaign against patent protection for medicine.
อ่านทั้งฉบับได้ที่ http://usaforinnovation.org/images/2007_adelmanletter.pdf
ลองอ่านจดหมายที่นายเค็น แสดงความยินดีกับ USTR ดูครับ
USA For Innovation Applauds Action From USTR to Support American Innovation
WASHINGTON, April 30 /PRNewswire-USNewswire/ — USA For Innovation welcomes the decision today by the Office of the United States Trade Representative (USTR) ………………………. as well as Thailand’s elevation to the PWL in its annual “Special 301″ report outlining global abusers of American intellectual property rights.
นี่แหละครับผลงานของนายเค็น เอเดอร์แมน ที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทอีเดอร์แมน บริษัทประชาสัมพันธ์ที่เป็นลูกจ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ผมไม่ทราบว่านายเค็นโกรธแค้น รัฐบาลไทยและ คมช.ด้วยสาเหตุใด คนคนนี้ทำทุกอย่างที่จะลดความหน้าเชื่อถือของรัฐบาลและ คมช.ในสายตาของประชาคมโลก ที่สำคัญคือใช้ข้อมูลเท็จและบิดเบือนในการประชาสัมพันธ์อย่างน่าละอาย
นอกจากที่นายเค็นจะเขียนบทความโจมตีรัฐบาลไทยและคมช.อย่างไร้เหตุผล แล้ว นายเค็นยังอาศัยฐานะที่นั่งเป็นหัวหน้าองค์กรที่อ้างตัวเองเป็น เอ็น จี โอ ลงโฆษณาโจมตีรัฐบาลไทย และท่านนายกรัฐมนตรี ในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ วอลสตรีทเจอร์นัล ไม่เพียงเท่านั้น นายเค็นยังได้อัดเทปบันทึกเสียงและภาพของตนส่งไปยัง youtube พร้อมกับออกข่าวโจมตีรัฐบาลไทยว่าปิดหูปิดตาประชาชน นำเรื่องที่รัฐบาลสั่งบล๊อกเว็บไซด์ youtube มาเป็นเหตุผล กล่าวเท็จว่ารัฐบาลสั่งบล๊อกเว็บไซด์ youtube เพราะมีภาพวีดีโอที่โจมตีรัฐบาลไทย
ความจริงคนไทยทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างดีว่า youtube ได้ปล่อยให้มีการแพร่
ภาพวิดีโอและบทความหมิ่นในหลวงของพวกเราไปทั่วโลก ทำให้รัฐบาลต้องปิดเว็บไซด์youtube ในประเทศไทยจนกว่าจะได้มีการแก้ไขสิ่งที่ไม่สมควรนี้ให้เรียบร้อย ส่วนตัวผมแล้วอยากให้ปิดเว็บนี้ตลอดไปเสียด้วยซ้ำ ไม่ตายหรอกครับถ้าไม่ได้ดู youtube
ผมนำแถลงข่าวของนายเค็นเกี่ยวกับการออก youtube มาให้อ่านกันด้วย เป็นคำแถลงข่าวที่ใช้ข้อมูลเท็จทั้งสิ้น นายเค็นนี่คืออั๋กลี่อเมริกันตัวจริงครับ
WASHINGTON, April 26, 2007 /PRNewswire-USNewswire via COMTEX/ — USA for Innovation’s Executive Director Ken Adelman will today release a message to the people of Thailand regarding the importance of innovation and concerns about the Thai Government’s recent endorsement of theft of American intellectual property.
…………..In early April, Thailand’s government censored all speech from YouTube,…….. Earlier this month, the government took steps to block access to YouTube because it viewed videos presenting content related to the Thai government as offensive.
ถ้าถามผมว่าควรให้เครดิตผลงานของนายเค็นเต็มร้อยไหม ผมว่าให้ได้บางส่วน ไม่ทั้งหมด ผมว่าน่าจะเป็นการโยนลูกกัน เป็นทีมเวิร์ค ระหว่าง นายเค็น กับบริษัท ล๊อบบี้ยิ้สต์อีก 2 บริษัท ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้างไว้ ผมว่านายเค็นมือไม่ถึง เป็นคนมีชื่อเสียงก็จริงอยู่ แต่ไม่มีเครดิต งานยักษ์อย่างนี้ต้องมือระดับอดีตทูต โรเบิรต์ แบ๊ลควิว จาก บริษัทบาร์เบอร์ กริฟฟิท แอนด์ โรเจอร์ ( บี จี อาร์ ) หรือ ทีมงานของบริษัท เบเกอร์ บ๊อททส์ ที่เจ้าของคืออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐที่ชื่อ เจมส์ เอ เบเกอร์ มากกว่า
ท่านผู้อ่านจำเนื้องาน ( lobbyist activities ) ที่คนพวกนี้รับจ้างกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้ไหมครับ ส่วนหนึ่งที่ได้รายงานต่อสภาสหรัฐคือการช่วยล๊อบบี้รัฐบาลสหรัฐและรัฐสภา ไม่ให้ใกล้ชิด และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลไทยเกินกว่าระดับที่เป็นอยู่ พูดง่ายๆคือ อย่าให้รักกัน เคยห่างกันแค่ไหน ก็ให้เก็บระยะห่างนี้ไว้ให้เท่าเดิม
เห็นชัดว่าผลงานใช้ได้ทีเดียว ล๊อบบี้ได้ผลครับ
พูดอย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณคงจะโวยอีกว่า “จับแพะชนแกะ ” ได้ยินแว่วๆผ่านลูกจ้างพ.ต.ท.ทักษิณมาทอดหนึ่ง ท่านผู้อ่านละครับ มีความเห็นเป็นอย่างไร
