ก่อนชมหนังเรื่องนี้จะขอให้ท่านหลับตาก่อนครับ ท่านผู้อ่านลองหลับตานึกภาพดูว่า ถ้าวันนี้ชาวนาไทยเกือบ 5 ล้านครอบครัว ทำนาแล้วไม่รู้จักคำว่าขาดทุนติดต่อกันซัก 3-4 ปี เศรษฐกิจไทยจะก้าวกระโดดไปไกลแค่ไหน หลับตาแล้วจะงีบต่ออีกซักนิดก็ไม่ว่ากันครับเพราะอาจได้ฝันดี เห็นภาพครอบครัวชาวนาไทยมีรายได้ติดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าคนชั้นกลางของประเทศเสียที
ปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน…ดีมั้ยค้าาาา…พี่น้อง พี่น้องชอบคร๊าบบบ ผมยังชอบเลย อยากให้ลูกหลานเรียนจบแล้วทำงานเลี้ยงตัวเองได้เสียที จำได้ว่าตอนจบปริญญาตรีใหม่ๆ ช่วงปีแรกผมเปลี่ยนงานถึงสามครั้ง เริ่มที่บริษัทเอกชนขายเครื่องทำความเย็นได้ 3,000 บาท อยู่ได้เดือนเดียว ย้ายมาทำที่ธนาคารทหารไทย บรรจุหรูทีเดียวเริ่มที่ 2,250 บาทต่อเดือน อยู่ได้เพียง 8 เดือนก็ต้องเผ่น งานใหม่เงินเดือนดีขึ้นกว่าเดิม บริษัทฝรั่งเขาจ้างที่ 6,500 บาทต่อเดือน ไปนั่งเฝ้าสนามบินที่อุดรฯ นี่ขนาดจบวิศวฯจากอเมริกาเชียวนะ
พตท.ทักษิณสั่งน้องสาวให้กระชากค่าครองชีพได้อย่างรวดเร็วทันใจ งานนี้หมูๆ ( ฝรั่งเรียก piece of cake ) ไม่ต้องคิดมากเพราะถือว่าเป็นมาตรการชั่วคราว ต้องสนองตอบนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ก่อนอื่นใด ถามว่าชั่วคราวแค่ไหน ตอบว่าขอดูสถานะการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอีกที คงไม่เกิน 1 ปี ( ในใจแอบคิดว่า รอให้แก้กฎหมายนิรโทษกรรมให้เสร็จ จากนั้นก็ตัวใครตัวมัน )
เมื่อวานแตะไปนิดว่าเงินทุนสำรองที่เป็นเงินตราต่างประเทศของเรามูลค่ากว่า $180,000 ล้านนั้น ไม่ได้มาจากการค้าการขายที่เป็นกำไรทั้งหมด มีส่วนอื่นปะปนอยู่ วันนี้จะบอกว่ามีอะไรบ้าง ใครที่คิดว่าเรารวยจังคงจะใจฝ่อลงไปบ้างเล็กน้อยครับ นักลงทุนต่างชาติที่นำเงินมาเล่นหุ้น นำเงินมาซื้อพันธบัตร นำเงินมาให้รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือธุรกิจภาคเอกชนกู้ ต้องนำเงินสกุลของเขามาแลกเป็นเงินบาท เมื่อครบกำหนดตามสัญญาหรือบางครั้งก่อนกำหนดด้วยซ้ำ เขาอาจต้องการถอนเงินกลับ เมื่อถึงเวลานั้นธปท.ต้องใช้เงินสำรองนี้แลกคืน เงินตราต่างประเทศส่วนนี้ไม่ใช่กำไรของเรา
ที่จะคุยให้ฟังสัปดาห์นี้เนื้อเรื่องจะหนักไปนิด อาจต้องอ่านหลายครั้งเพื่อให้เกิดความเข้าใจ แต่น่าจะเป็นประโยชน์ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของเงิน เป็นเจ้าของประเทศ ประเทศไทยของท่านทำมาค้าขายกับนานาประเทศทั่วโลก การค้าการขายทำให้เกิดทั้งรายได้และรายจ่าย รายได้อาจเกิดจากการส่งออกสินค้า จากการท่องเที่ยว รายจ่ายหลักน่าจะเป็นน้ำมัน หรือวัตถุดิบป้อนโรงงาน หรือสินค้าทั่วไป กระเป๋าถือใบแพงๆ รถเก๋งคันงามๆ
พตท.ทักษิณคิด รัฐบาลทำ ว่าแล้วรัฐมนตรีคลังก็เดินหน้าเพื่อจัดตั้งกองทุนมั่งคั่งทันที ประชุมร่วมกับธปท.ครั้งแรก รมว.คลังสั่งการให้ธปท.ศึกษาแนวทางการจัดตั้งกองทุนแล้วรายงานผลภายใน 1 เดือน สองวันผ่านไปผู้ว่าการธปท.ให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากขัดใจคลัง จะทำให้แล้วเสร็จแล้วนำเสนอตามกำหนดเวลา “การตั้งกองทุนจะยืมเงินสำรองเงินตราต่างประเทศของ ธปท. ส่วนหนึ่งมาทำเป็นบัญชีย่อยลงทุนหาผลประโยชน์ หากกำไรก็ตกเป็นของรัฐบาล และหากขาดทุนก็ต้องตั้งเงินงบประมาณแผ่นดินมาชดใช้ความเสียหาย” นายธีระชัย รมว.คลังกล่าว
เวลาเหมือนมีปีก บินไปเร็วเสียเหลือเกิน ผมได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อต้นปี เผลอแป๊บเดียวใกล้เวลาที่ท่านนายกจะประกาศยุบสภาแล้ว
ช่วงนี้มีแต่คนบ่นว่าของแพงแล้วต่อว่ารัฐบาลว่าไม่เอาไหน ไม่ดูแลควบคุมราคาสินค้า ปล่อยให้ราคาขยับขึ้นเป็นว่าเล่น คนที่สนใจการเมืองตามงานของรัฐบาลมาตลอดก็อาจดักคอว่า รัฐฯทำงานรูปแบบเดิมๆ พอสินค้าขึ้นราคาก็เชิญผู้เกี่ยวข้องมาพบที่กระทรวงฯ ขอความร่วมมือตามด้วยมาตรการธงฟ้าขายสินค้าราคาถูกช่วยผู้มีรายได้น้อย
ทุกครัวเรือนหนีไม่พ้นที่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเช่น ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้มทุกเดือน ราคาพลังงานจึงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวประชาชนมาก นักการเมืองกับประชาชนเป็นคู่แฝด นักการเมืองจึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของพลังงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ใกล้เลือกตั้ง รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยจะโดนกล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลเป็ดง่อย (Lame duck government) คล้ายกับว่าไม่มีพลัง ขาดความน่าเชื่อถือ และถ้ารัฐบาลนำเสนอนโยบายใหม่ๆ ในช่วงนั้นก็จะถูกวิจารณ์ว่ากำลังหาเสียงหาคะแนนนิยม